ที่นอนที่มีไรฝุ่นมากที่สุดคือ
- ที่นอนที่เก่ามาก ยิ่งมีไรฝุ่นมาก และประเภทของที่นอนที่มีไรฝุ่นมากทีสุด คือ ที่นอนนุ่น ใยมะพร้าว ที่นอนสังเคราะห์ และที่นอนยางพารา ตามลำดับ
ตากแดดฆ่าไรฝุ่นได้ไหม?
- แสงแดดฆ่าได้ ประมาณ 10% เพราะอุณหภูมิแดดประมาณ 40-50 องศาเซลเซียส? ถ้าเอาที่นอนไปตากแดด ตัวไรจะมุดลงไปอยู่ข้างล่าง
สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น ฆ่าหรือไล่ ตัวไรฝุ่น
- สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่นจะฆ่าตัวไรฝุ่นด้วย การที่น้ำยาโดนสัมผัสตัว และการรม คือ ดมกลิ่นสเปรย์ และตาย ฉะนั้นลูกค้าควร ใช้ผ้าห่มคลุมทับหลังฉีด และปิดประตูหน้าต่างจะยิ่งได้ประสิทธิภาพมากขึ้น โดยแนะนำ ฉีดเช้า แล้วทิ้ง ไว้ 1-2 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้จนเย็นก่อนนอน จึงค่อย เปิดประตูหน้าต่างเพื่อระบายอากาศออก
ซากของตัวไรฝุ่นมันยังจะอยู่เหลือบนที่นอนเรา จะคงส่งผลต่อโรคภูมิแพ้อีกหรือไม่
- เมื่อตัวมันตายแล้ว ความเป็นพิษ หรือโปรตีนมันจะค่อยค่อยเสื่อมไป แต่อาจช้าหน่อย ฉนั้นถ้าอยากให้ผลเร็ว ขอแนะนำให้ปัดกวาดหรือใช้เครื่องดูดฝุ่น ตามอีกที แต่ถ้าหากไม่มีการใช้น้ำยา แล้วดูดฝุ่นเพียงอย่างเดียวจะไม่เป็นผลเพราะ ตัวไรฝุ่นจะต้านทานแรง ของเครื่องดูดฝุ่นได้
เครื่องฟอกอากาศ จะได้ผลไหม
- เครื่องฟอกจะเหมาะกับควันบุหรี่มากกว่า เพราะจะลอยอยู่ในอากาศ และเครื่องจะจับกลิ่นได้ดี แต่ตัวไรฝุ่นนั้นมีขนาดใหญ่กว่า เมื่อเราขยับตัวบนที่นอน มูลหรือคราบมันจะฟุ้งกระจายขึ้นมาแต่จะไม่เกิน 5 นาที ก็จะร่วงลงบนที่นอน หรือโซฟา เครื่องจึงไม่สามารถขจัดได้อย่างเต็มที่? อีกทั้ง ตัวไรฝุ่นต้นเหตุหลักก็มิได้ถูกกำจัด จึงยังคงสร้างมูล ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ใช้ผ้าที่มีเส้นใยสานกันแน่น พลาสติก หรือเส้นใย vinyl และ nylon หรือเคลือบด้วยสารป้องกันไรฝุ่น ได้ผลหรือไม่
- ใช้ได้ผลในช่วงแรก แต่ว่าเวลานอนจะรู้สึกร้อนมากทำให้ไม่สอดคล้องกับหลักการหลับสนิทแบบธรรมชาติ ด้วยการคายความร้อนของร่างกายขณะหลับ และถ้าหากเป็นผ้าทอแน่น หลังจากการใช้งานไปเพียงไม่นาน เมื่อผ่านการซักไม่นาน เส้นใยจะถูกเปลี่ยนโครงสร้าง ทำให้เกิดช่องโหว่ ให้สารก่อภูมิแพ้ยังคงฟุ้งขึ้นมาได้
สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่นใช้สารเคมีในการฆ่าหรือไม่ และเป็นอันตรายไหม ในเมื่อฆ่าไรฝุ่นได้ และลดฆ่าสารก่อภูมิเเพ้
- สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น ผลิตจากสารสกัดในธรรมชาติ แต่ปลอดภัยกับผู้ใช้ ที่ผ่านการทดสอบเเล้วว่า น้ำมันหอมระเหย กานพูล เเละอบเชย ที่มีความเข้มข้น 1.0% สามารถกำจัดไรฝุ่นและลดสารก่อภูมิแพ้ได้ 100% เเต่ปลอดภัยกับผู้ใช้และสิ่งเเวดล้อม และยังเป็นผลงานวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. (สวทช คือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) โดยน้ำมันหอมระเหยกานพลูจะมีฤทธิ์ในการกำจัดตัวไรฝุ่น ส่วนน้ำมันหอมระเหย อบเชยจะช่วยลดสารก่อภมูิเเพ้
เเล้วจะทราบได้อย่างไรว่าตัวสเปรย์สมุนไพรกำจัดไรฝุ่น กำจัดไรฝุ่นได้จริง
- จากการทดลอง ทดลองตัวไรฝุ่น 100 ตัว กับสารสกัดที่ได้มา ตัวไรฝุ่นจะตายทุกครั้งที่ทำการทดลอง
- แล้วก็มีการทดสอบซ้ำหลายครั้ง และยังได้ส่งไปยังศูนย์วิจัยไรฝุ่นศิริราช ได้ตรวจสอบอีกทีหนึ่ง แล้วก็มีผลการทดสอบออกมาว่า สามารถกำจัดไรฝุ่นได้ 100%
- เเล้วก็มีการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อเป็นการยื่นยันในการนำไปใช้จริงๆ เเละยังเพิ่มความเข้มข้นอีกเป็นเท่าตัว เพื่อความยืนยั่นจริงๆว่าจะไม่เกิดตัวไรฝุ่นขึ้นมาอีก
วิธีการออกฤทธิ์ของ กานพลู และ อบเชย
- ออกฤทธิ์ได้ 2 เเบบ แบบแรกคือ สัมผัส โดยตรง หรือ เอาเคลือบไว้ ตัวไรฝุ่นก็จะตายภายใน 10 นาที จาการทดลอง
- แบบที่สอง คือ การรม ซึ่งเป็นการออกฤทธิ์หลัก เพราะว่าเป็นสเปรย์ การฉีดไปบ่นที่นอน เจ้าตัวไรฝุ่นส่วนใหญ่ที่อยู่ข้างล่าง ไม่ได้สัมผัสสารโดยตรง จึงต้องมีการรม การรมคือหลังฉีดสเปรย์ ให้หาวัตถุมาคลุม ให้เกิดการรมขึ้นข้างใน วัสดุที่มาคุมถ้าเป็นพวกพลาสติกจะดีมากเลย เเต่ถ้าไม่มีจริงๆก็เป็นผ้าห่มหนาๆคลุมไว้นานๆ
- วิธีที่เเนะใช้ ก็ใช้ตอนเช้า แล้วพอตอนบ่ายก็เอาผ้าคลุมออก สบัดผ้าปูที่นอนเเล้วปูทับไปใหม่ (ถ้าไม่สะดวกก็เป็นช่วงไหนก้ได้คลุมไว้ 1-2 ชั่วโมง)
วิธีใช้สเปรย์สมุนไพรกำจัดไรให้ได้ผล 100% ทำไง
- สำหรับลูกค้าที่พึ่งใช้ครั้งเเรก : 1 เดือนฉีด 2 ครั้ง สัปดาห์ เว้น สัปดาห์ (พอเดือนถัดไปก็ค่อยฉีด 1 เดือน เว้น 1 เดือน/ครั้ง เพื่อป้องกันตัวไรฝุ่นกลับมา)
- ที่ให้ฉีดเดือนเเรก 2 ครั้ง เพราะว่า การรม ครั้งแรกจะทำให้ตัวไรฝุ่นตายก่อน ส่วนไข่ที่เหลือก็ยังมีโอกาสฝักตัวออกมา จากนั้นสัปดาห์ถัดไปก็ทำการฉีดซ้ำ
- ครั้งแรกที่ฉีด คือการตัดวงจรไม่ให้ตัวไรฝุ่น วางไข่ได้ใหม่ ในส่วนนี้ตัวเต็มวัยของไรฝุ่น จะตายหมด ถ้าเหลือก็จะเหลือน้อยมาก และไข่ก็จะตายครึ่งหนึ่ง เเล้วเว้นไว้ สัปดาห์
- สัปดาห์ที่ 2 ก็ทำการฉีดซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะไข่อาจจะฝักเป็นตัวอ่อน ซึ่งช่วงนั้นตัวไรฝุ่นยังไม่ว่างไข่ ก็เป็นการทำให้ที่นอนของเราปราศจากตัวไรฝุ่น
- และที่ให้ฉีด 1 เดือน เว้น 1 เดือน/ครั้ง เพราะว่าป้องกันการติดกลับมาจากภายนอกค่ะ
ยังไม่เป็นโรคภูมิแพ้ซักหน่อย ไม่รู้จะซื้อไปทำไม
- ปัญหาของโรคภูมิแพ้ อาจมาในรูปของอาการคันผิวหนัง หรือ เป็นหวัดบ่อย หรือไม่สบายบ่อย เพราะภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง หากเมื่อใช้ก็เป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดี
กำจัดไรฝุ่นแล้วทำไมถึงมีอีก
- ปกติถึงแม้ว่าไรฝุ่นชุดเดิมจะหมดไปแล้ว แต่ที่นอน หรือเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ก็อาจจะมีไรฝุ่นอีกได้จากการสัมผัสกับเสื้อผ้าของเรา ที่เราอาจไปติดไรฝุ่นมาจากที่อื่น จึงควรฉีดสเปรย์ทุกๆ 2 เดือน
วิธีสังเกตุ ไรฝุ่นตายจริงไม
- เบื้องต้นสังเกตจากการฟุ้งของฝุ่นค่ะ ก่อนฉีดและหลังฉีดสเปร์ยกำจัดไรฝุ่น
- หรืออีกวิธีคือสังเกตอาการแพ้ก่อนและหลังใช้สเปร์ยกำจัดไรฝุ่นนั้นเองค่ะ